การที่ปัจจัยทางการเมืองถือเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลและมีความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เสถียรภาพทางการเมืองจึงมีความสำคัญเนื่องจากหากประเทศใดมีเสถียรภาพทางการเมืองที่มั่นคงต่อเนื่องปราศจากสงคราม จะส่งผลให้นักธุรกิจ นักลงทุนทั้งในและนอกประเทศ เกิดความมั่นใจกล้าลงทุน ระบบเศรษฐกิจเกิดการจ้างงาน เศรษฐกิจเกิดการพัฒนาอย่างเต็มที่ กระทั่งผู้นำประเทศและการบริหารจัดการต่างก็เป็นปัจจัยที่สำคัญในการผลักดัน กำหนดนโยบายบริหารจัดการ กำหนดกลยุทธ์ ให้การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ทฤษฎีความโกลาหล (Chaos Theory)
บริบทของทฤษฎีความโกลาหลกล่าวได้ดังนี้
“ความโกลาหล” ในทฤษฎีความโกลาหล ก็คือ ปรากฏการณ์ที่ดูเหมือนว่าเกิดขึ้นอย่างสะเปะสะปะ(random) แต่ที่จริงแล้วแฝงไปด้วยความเป็นระเบียบ (order) ตัวอย่างของระบบที่แสดงความโกลาหลคือ เครื่องสร้างเลขสุ่มเทียม (psuedo-random number generator) ในเครื่องคอมพิวเตอร์จากงานจำลองสถานการณ์จริง(simulation) การที่คอมพิวเตอร์สามารถสร้างเลขสุ่ม (random number) ซึ่งอาจดูเหมือนการเกิดของตัวเลขสุ่มไม่มีแบบแผนเพราะเป็นเพียงเลขสุ่มเทียม (psuedo-random number)ซึ่งต่างจากเลขสุ่มแท้ที่เกิดจากการทอดลูกเต๋า เพราะเลขสุ่มของคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นจากโปรแกรม ง่าย ๆ เช่น X(n+1) = c X (n) mod m โดยที่ X(n) คือเลขสุ่มครั้งที่ n ส่วน c และ m เป็นเลขจำนวนเต็ม และ mod หมายถึงการหารเลขจำนวนเต็มแล้วเอาเฉพาะเศษ เช่น 5 mod 3 จะได้ 2 (5 หาร 3 เหลือเศษ2)
ประโยชน์ของทฤษฎีความโกลาหลมีดังต่อไปนี้
1. ใช้ในการวิเคราะห์ระบบและทำนายอนาคต
โดยแนวคิดของทฤษฎีความโกลาหลแห่งสถาบันวิจัยซานตาเฟ (santafe Research Institute) ในสหรัฐอเมริกา ได้มีการประยุกต์แนวนี้ได้แก่ การทำนายความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (peak load) ในแต่ละวันของบริษัทไฟฟ้า หรือปริมาณความต้องการใช้น้ำในแต่ละวัน (ซึ่งประยุกต์ใช้จริงที่บริษัทเมเดนฉะในญี่ปุ่น) และการพยากรณ์อากาศซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้หนึ่งที่ทำให้เกิดศาสตร์แห่งความโกลาหลเองด้วย
2. ใช้ในการสร้างระบบโกลาหล
มีผู้เชื่อว่า “ในธรรมชาติ ความโกลาหลเป็นสิ่งสากลมากกว่าและดีกว่าระเบียบแบบง่าย ๆ” เช่น การที่บริษัทมัทสึชิตะยังใช้ทฤษฎีโกลาหลควบคุมหัวฉีดของเครื่องล้างจาน ซึ่งพบว่าสามารถล้างจานได้สะอาดโดยประหยัดน้ำได้กว่าเครื่องล้างจานแบบอื่นๆ ทั้งนี้เพราะเส้นทางการเคลื่อนที่ของหัวฉีดที่ดูเหมือนไร้ระเบียบทำให้ครอบ คลุมพื้นที่ได้ดีกว่าการเคลื่อนที่ตามแบบแผนปกติ
3. ใช้ในการควบคุม-สร้างความเสถียรให้กับระบบ
ตัวอย่างของการประยุกต์ใช้ตามแนวความคิดนี้ได้แก่ การที่องค์การนาสา (NASA) สามารถควบคุมยานอวกาศ ISEE-3 ให้ลอยไปสู่ดาวหางที่ต้องการสำรวจได้โดยใช้เชื้อเพลิงเพียงเล็กน้อย
หน้าที่ 2 - ประพจน์ของทฤษฎีความโกลาหล (chaos theory)
ประพจน์โดยสรุปของ ทฤษฎีความโกลาหล (chaos theory) มีดังต่อไปนี้
ระบบที่แสดงความโกลาหลจะต้องประกอบไปด้วยลักษณะดังต่อไปนี้
1. มีคุณสมบัติแบบไม่เป็นเชิงเส้น (nonlinearly) คุณสมบัติแบบไม่เป็นเชิงเส้นสามารถนิยามได้ว่าตรงกันข้ามกับ คุณสมบัติแบบเชิงเส้น โดยที่ฟังก์ชัน f จะมีคุณสมบัติเชิงเส้นก็ต่อเมื่อ f(x+y) = f(x)+f(y)นั่น ก็คือ ในระบบแบบไม่เป็นเชิงเส้น ผลลัพธ์จากการรวมกันของส่วนย่อยจะไม่เท่ากับผลรวมของทั้งหมดนั่นเอง และการที่ระบบโกลาหลจำเป็นต้องเป็นระบบที่ไม่เป็นเชิงเส้นก็ไม่ได้หมายถึง ระบบที่ไม่เป็นเชิงเส้นทุกๆ ระบบจะเป็นระบบโกลาหลด้วยเสมอไป
2. ไม่ใช่เกิดแบบสุ่ม (คือเป็น deterministic ไม่ใช่ probabilistic) หรือเรียกได้ว่าในระบบโกลาหล เหตุการณ์ทั้งหลายมักเกิดขึ้นภายใต้กฎเกณฑ์ที่แน่นอนตายตัว โดยเพื่อป้องกันความสับสนระหว่าง“ความโกลาหล” และ “การสุ่ม” จึงมีการเรียก chaos ว่า deterministic chaos
3. ไวต่อสภาวะเริ่มต้น (sensitivity to initial conditions) คือการเริ่มต้นที่ต่างกันเพียงนิดเดียวอาจส่งผลให้บั้นปลายต่างกันมาก จึงนิยมยกตัวอย่างของ “ผลกระทบผีเสื้อ” (butterfly effect) ซึ่ง หมายถึงการที่ผีเสื้อกระพือปีกในที่แห่งหนึ่ง แล้วส่งผลทำให้ฝนตกในที่ที่ห่างไกลออกไป ในสัปดาห์ต่อมา ตัวอย่างที่ชัดเจนของการไวต่อสภาวะเริ่มต้นคือ การขยายผลลัพท์ให้ความแตกต่างรวดเร็วขึ้นของเลขยกกำลัง (exponential) นั่นเอง
4. ไม่สามารถทำนายล่วงหน้าในระยะยาวได้ (long-term prediction is impossible) การศึกษาทฤษฎีความโกลาหลมีความสำคัญก็เพราะเชื่อว่า ระบบในธรรมชาติ โดยมากมีลักษณะโกลาหล ทั้งๆ ในความเป็นจริงยังไม่มีวิธีการที่แน่นอนชัดเจน ในการตัดสินว่าระบบใดระบบหนึ่งเป็นระบบโกลาหลหรือไม่ด้วยซ้ำไป
อย่างไรก็ตาม ระบบโกลาหลได้สร้างผลกระทบอันยิ่งใหญ่แก่วงการวิทยาศาสตร์ เพราะเป็นการหักล้าง ความเชื่อของ Laplace ที่กล่าวไว้ว่า “การรู้สภาพตั้งต้นที่ดีมากพอ จะทำให้สามารถทำนายอนาคตของเอกภพทั้งเอกภพได้”
หน้าที่ 3 - การประยุกต์ใช้ทฤษฎีความโกลาหลกับสังคมไทย
การ ประยุกต์ทฤษฎีความโกลาหลในสังคมไทย เป็นการประยุกต์ที่แตกต่างกับวงการวิชาการของโลกโดยสิ้นเชิง เนื่องจากไม่พบการประยุกต์ในด้านวิทยาศาสตร์ หรือเศรษฐศาสตร์เลย พบเพียงการอธิบายในด้านสังคม โดยการประยุกต์ใช้ทฤษฎีเป็นไปอย่างหละหลวม คือเป็นการหยิบเอาเฉพาะแนวความคิดบางอย่างในทฤษฎีไปจับกับสิ่งที่ต้องการ ศึกษา เช่นระบบการเมือง ที่ใช้เพียงภาษาของทฤษฎีที่ใช้สื่อในสิ่งที่ต้องการจะสื่อ ออกมาในรูปแบบใหม่โดยที่ผู้ฟังฟังแล้วอาจแค่รู้สึกแปลกใหม่ หรือทำให้ฉงนสงสัยเท่านั้น มีเฉพาะแนวคิดที่่น่าสนใจเรื่องเรื่อง “จุดคานงัดของสังคม”ซึ่งทฤษฎีความโกลาหลช่วยชี้ให้เห็นว่า ในระบบที่ไวต่อสภาวะตั้งต้นนั้น การกระทำเพียงเล็กน้อยอาจเกิดสะเทือนมากได้ เหมือนกับผลกระทบผีเสื้อ หรือเหมือนกับการงัดเบาๆ คานก็อาจเคลื่อนไหวได้ หากเราสามารถรู้ว่า “จุดคานงัด” ดังกล่าวนั้นอยู่ที่ไหน แนวความคิดนี้จึงเป็นการประกาศถึงศักยภาพของปัจเจกชน ในการเปลี่ยนแปลงสังคมไปในทางที่ดีขึ้น เพราะผลการกระทำของปัจเจกชนคนเดียว แม้เป็นเหมือนการกระพือปีกของผีเสื้อตัวเล็ก ๆ ก็ยังมีโอกาสทำให้ฝนตกได้
แต่กระนั้นจะเห็นได้ว่าแนวคิด Chaos Theory กับสถานการสังคมและเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นเพียงการสื่อในลักษณะใช้ภาษาทั่วๆ ไปโดยไม่มีการอ้างอิงหลักทฤษฎีโกลาหลแต่อย่างใด เนื่องจากทฤษฎีความโกลาหลมีประเด็นที่ชัดเจนคือ “ธรรมชาติมีความซับซ้อนเกินกว่าการคิดแบบเชิงเส้นจะสามารถทำความเข้าใจได้” ขณะ ที่ทฤษฎีความโกลาหลไม่ได้ให้อ้างอิงหรือระบุ ถึงวิธีการจัดการกับสังคมที่เป็นรูปธรรม มีแค่การกล่าวถึงความสำคัญของการมองแบบไม่เป็นเชิงเส้น ไม่เป็นกลไก หรือเรียกว่ามองแบบองค์รวมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
กล่าวถึง Chaos Theory กับสถานการณ์ทางสังคมและการเมืองไทยได้ดังนี้
ในช่วงเปลี่ยนผ่านทางสังคมครั้งใหญ่ “ทฤษฎีเดิม” ที่เคยใช้ได้ผล เริ่มมีความผิดพลาดยอมรับไม่ได้ ดังนั้น “ขุมกำลัง” ทั้งหลายที่อยู่ในเวทีการต่อสู้ที่คาดเดาไม่ได้นี้ จะต้องพยายามค้นหา “ทฤษฎีใหม่” ที่ใช้ในการวิเคราะห์สถานการณ์ได้แม่นยำกว่าทฤษฏีเดิม เพื่อนำไปสู่การกำหนด “กลยุทธ์” ที่ถูกต้องเหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม อันจะนำไปสู่ชัยชนะในท้ายที่สุด
บทความของหนังสือพิมพ์มติชน ได้มีการอ้างอิงที่น่าสนใจไปถึง การวางแผนของพรรคประชาธิปัตย์หลายปีก่อน เพื่อประยุกต์ใช้ Chaos Theory มาเป็นกลยุทธ์เพื่อสู้กับพรรคไทยรักไทย โดยเน้นไปที่การ“สร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในสังคม ด้วยการยกปมการทุจริตคอร์รัปชั่นของรัฐบาลขึ้นมาขยายฉายซ้ำ”ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์หรือฝ่ายอื่นๆได้ประยุกต์ใช้แนวทางนี้จริงๆ ก็จะพบว่า Chaos Theory ที่ผู้ใช้คาดหวังว่าจะทำลายพรรคไทยรักไทยนั้น ในที่สุดกลับทำให้เกิดผลเป็นขุมกำลัง “เสื้อแดง” และขุมกำลังอื่นๆที่ควบคุมไม่ได้ออกลูกออกหลานเต็มไปหมด และส่วนหนึ่งได้กลับมากระทบ พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งกำลังถูก Chaos Theory สั่นคลอนอยู่ในขณะนี้
หากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย กลุ่มคนเสื้อแดง หรือกลุ่มมือที่มองไม่เห็นที่ซ่อนตัวอยู่ ต้องการที่จะได้รับชัยชนะในช่วง Chaos Theory ซึ่งกำลังจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ระเบียบใหม่ (New Order) ย่อมต้องทำการศึกษา “ประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการ” ของสังคมไทยและสังคมโลกอย่างรอบด้าน เพื่อความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในภาพอนาคต (Scenario) ที่สังคมไทยจะเปลี่ยนผ่านไปสู่ระเบียบใหม่ (New Order)
การกำหนด “กลยุทธ์” เพื่อรับมือกับภาวะ Chaos Theory จึงไม่ใช่เพียงการสร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในสังคม เพื่อทำให้ประชาชนเกลียดชังฝ่ายตรงข้ามเพียงอย่างเดียว เพราะในภาวะ Chaos Theory ที่ซับซ้อนนั้น การกระทำเพื่อมุ่งหวังผลทางตรง อาจนำไปสู่ผลทางอ้อม ซึ่งท้ายสุดอาจย้อนกลับมาทำร้ายผู้กระทำได้
แม้จะมีการนำ Chaos Theory มาใช้เปรียบเทียบกับสถานการณ์ความวุ่นวายของบ้านเมืองที่กำลังประสบอยู่ จุดอ่อนแห่งการประยุกต์ใช้บ่งชัดคือเป็นการมองภาพเพียงแค่องค์รวมหลวมๆ ที่สื่อว่า “สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้…เป็นบรรยากาศที่ช่างไร้ระเบียบ ไร้หลักการ ยากที่จะทำนาย (Unpredictable)” โดยลืมมองไปว่า การต่อสู้ช่วงชิงทางการเมืองในทุกยุคทุกสมัยก็ล้วนแต่มีความไร้ระเบียบเกิดขึ้นเป็นระยะ จึงไม่จำเป็นต้องใช้ Chaos Theory มา จับก็สามารถอธิบายได้ กรณีปัจจุบันมติชนพยายามสื่อว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความวุ่นวาย โกลาหลที่เกิดขึ้นแบบธรรมดาทั่วไปที่ท้ายสุดเหตุการณ์จะกลับเข้าสู่ระเบียบเดิม (Old Order)
แต่กรณีนี้มุ่งจับประเด็นเน้นไปที่ภาวะไร้ระเบียบ ที่จะไม่หวนกลับไปสู่สถานะเดิม (Old Order) แต่จะนำไปสู่ระเบียบใหม่ (New Order) ที่จะผุดบังเกิดขึ้นมาภายหลังภาวะไร้ระเบียบ(Chaos) สิ้นสุดลงนั่นเอง
*การแก้ไขปัญหาประเทศไทยได้อย่างเป็นระบบในการกำหนดกลยุทธ์ที่ดีที่สุด ในการตอบโต้กับภาวะChaos Theory กับปัจจัยทางการเมืองที่เกิดขึ้นจึงควรกระทำดังนี้
1. พิจารณาสถานการณ์แบบองค์รวมโดยใส่ “สถานการณ์จำลอง (Scenario)” เพื่อเป็นตัวแทนภาพอนาคต ในการกำหนดกลยุทธ์ที่เหนือกว่าฝ่ายตรงข้ามที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ไปวันๆ
กรณีตัวอย่างการที่กลุ่มเสื้อแดงรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนที่มีทีท่าจะขยายใหญ่โต เป็นปึกแผ่นขึ้นทุกวันนั้น ความชัดเจนคือแสดงให้เห็นถึงเป็นความยินยอมพร้อมใจ ไม่ ได้เกิดจากถูกหลอกลวงมาเพียงอย่างเดียว เนื่องจากเกิดขึ้นเป็นเวลานานและมีการขยายกลุ่มก้อนใหญ่โตขึ้นทุกวัน จึงเป็นสิ่งชี้ชัดว่าเป็นเพราะอดีตนายกฯ ทักษิณมีนโยบายที่เข้าถึงในการแก้ปัญหาได้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มคน เสื้อแดง ฉะนั้นการมุ่งพยายามจัดการเพียงอดีตนายกทักษิณ จึงไม่ใช่ประเด็นในการแก้ปัญหาความวุ่นวายการแบ่งเป็นฝักฝ่ายของคนใน สังคมอย่างแน่นอนที่สุด
2. ใส่ใจปรากฎการณ์ขนาดเล็กที่เคยมองข้ามไป
Chaos Theory มักให้ความสำคัญกับปรากฎการณ์เล็กๆ ที่อาจพลิกเปลี่ยนสถานการณ์ใหญ่ไปสู่ทิศทางใหม่โดยไม่คาดฝัน เนื่องเพราะในสถานการณ์ Chaos นั้น กฎเกณฑ์เดิมล้วนแต่ถูกทำลายลง ดังนั้นจึงเปิดช่องว่างให้กับปรากฎการณ์เล็กๆได้มีบทบาทสำคัญต่อสถานการณ์ใหญ่ได้
3. ใช้มุมมองใหม่ๆในการประเมินมิตรและศัตรู
การที่ Chaos Theory ทำลายกฎเกณฑ์เดิม ดังนั้นมิตรและศัตรู ก็อาจเปลี่ยนข้างย้ายขั้วได้ซึ่งค่อนข้างซับซ้อนกว่าปกติ ดังนั้นหากใครสามารถมองเห็น Scenario ที่ จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ย่อมสามารถมองเห็นความเคลื่อนไหวทั้งการประสานมิตรและสร้างศัตรูได้แม่นยำ กว่าคนอื่น ซึ่งจะนำไปสู่การกำหนดกลยุทธ์ที่ดีกว่าได้
กล่าวโดยสรุป Chaos Theory สามารถอธิบายภาวะเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ ที่กฎเกณฑ์เดิมได้ถูกทำลายลง ดังนั้นหากต้องการชัยชนะจะต้องมองเห็นช่องว่างระหว่างกฎเกณฑ์เดิมกับการ เปลี่ยนผ่านเข้าสู่กฎเกณฑ์ใหม่ ภายใต้ภาวะใหม่ที่กำลังก่อตัวขึ้น เพื่อกำหนดกลยุทธ์ให้สอดคล้องและแม่นยำที่สุดนั่นเอง
ที่มา: ทฤษฎีความโกลาหล (Chaos Theory) กับความไร้ระเบียบของสถานการณ์บ้านเมือง ในหรอยดอทคอม
ลูกศร
cursor
ผู้ติดตาม
friend
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เรื่องน่ารู้ต่างๆ
- 1 − 2 + 3 − 4 + · · · (1)
- 10 วิธีช่วยกันดูแลโลก (1)
- 10 อันดับ ตลกร้าย วันเมษาหน้าโง่ (1)
- 10 อันดับเมฆที่หาดูได้ยาก (1)
- 20 เรื่องเหลือเชื่อทางวิทยาศาสตร์ (1)
- กระจุกดาวทรงกลม (1)
- กระต่าย กระต่าย (1)
- กล้องโทรทรรศน์ (1)
- กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (1)
- กล้องส่องทางไกลชนิดสองตา (1)
- กลั้นหายใจ ดำน้ำ นานที่สุดในโลก (1)
- กลุ่มดาวคืออะไร (1)
- กวนอู (1)
- กษัตริย์อาเธอร์ (1)
- กัปปะ (1)
- การกินช็อคโกแล๊ตช่วยแก้ไอได้ จริงหรือ (1)
- การกินเนยก่อนนอนทำให้นอนหลับสนิทขึ้น จริงหรือ (1)
- การกินบ๊วยช่วยเพิ่มกำลังได้ จริงหรือ (1)
- การกินอาหารมื้อเช้าช่วยป้องกันความจำเสื่อมได้ จริงหรือ (1)
- การข่มขืนแฟน (1)
- การเคี้ยวหมากฝรั่งช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชายได้ จริงหรือ (1)
- การใช้เหตุผล (1)
- การดูดวง (1)
- การประมวลผลสารสนเทศ (1)
- การผูกดวง (1)
- การพรางกาย เมื่อสัตว์เล่นซ่อนหา (1)
- การาสุเทนกุ (1)
- กินน้ำมะนาวปั่นสามารถแก้อาการเมาค้างได้ จริงหรือ (1)
- กินส้มช่วยแก้อาการเซ็งได้ จริงหรือ (1)
- กิเลน (1)
- กุมารทอง (1)
- เกลือหก (1)
- ข้อคิด จาก พระอาจารย์ ว. วชิรเมธี ชุด เพื่อความสวัสดีแห่งชีวิต (1)
- ข้อมูลนก-นกกระจาบทอง (1)
- ข้าวตอกพระร่วง (1)
- ขุนช้างขุนแผน (1)
- โขะขะ (1)
- ไข่ขาวสามารถใช้รักษาแผลน้ำร้อนลวกได้ จริงหรือ (1)
- ไข่ ใหญ่ที่สุดในโลก ( Biggest Egg ) (1)
- คลื่นวิทยุ (1)
- คลื่นสึนามิ (1)
- ควอนตัม ตอนที่ 4 - สเปกตรัมของแสง (1)
- ควอนตัม ตอนที่ 5 - คลื่นของสสาร (1)
- ควอนตัม ตอนที่ 6 - คลื่นเชิงความน่าจะเป็น (1)
- ความกังขาของนักบุญทอมัส (คาราวัจโจ) (1)
- ความเจ็บปวด (1)
- ความเชื่อเรื่องการสร้างโลกของจีน (1)
- ความถูกต้องทางการเมือง (1)
- ความเป็นจริงเสมือน (1)
- ความยาวคลื่น (1)
- ความรัก (1)
- ความเสื่อมของทัศนะเชิงกล ตอนที่ 1-ของไหลไฟฟ้าสองชนิด (1)
- ความเสื่อมของทัศนะเชิงกล ตอนที่ 2-ของไหลแม่เหล็ก (1)
- ความเสื่อมของทัศนะเชิงกล ตอนที่ 3-ปัญหาที่ร้ายแรงปัญหาแรก (1)
- ความเสื่อมของทัศนะเชิงกล ตอนที่ 4- ความเร็วของแสง (1)
- คาไมทาจิ (1)
- คำเทศน์ พระอาจารย์ ว. วชิรเมธี ชุด มีไปทำไม ? (1)
- คำสอน ของ พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ชุด น่าเสียดาย (1)
- คำสาป (1)
- คุณสมบัติของน้ำ (1)
- งานเขียน พระอาจารย์ ว. วชิรเมธี ชุด ขืนทำ...จะซ้ำใจ (1)
- งู ใหญ่ที่สุดในโลก ( Biggest snake ) (1)
- เง็กเซียนฮ่องเต้ (1)
- แง่คิดดีๆ ของ ท่าน ว. วชิรเมธี ชุด คิดบวกชีวิตบวก (1)
- จิ้งจกเขียว แห่งมาดากัสการ์ (1)
- จุดเริ่มต้นของทัศนะเชิงกล ตอนที่ 10 - ทฤษฎีจลน์ของวัตถุ (1)
- จุดเริ่มต้นของทัศนะเชิงกล ตอนที่ 8 - อัตราของการแลกเปลี่ยน (1)
- จุดเริ่มต้นของทัศนะเชิงกล ตอนที่ 9 - ฉากหลังเชิงปรัชญา (1)
- เจ็ดนางฟ้า (1)
- เฉลว (1)
- ชัยมงคล 7 ประการ (1)
- ชายผู้เลือกเส้นทางชีวิต จะเป็นมนุษย์ หรือ สุดยอดช่างภาพ (1)
- ใช้ผงชูรสแล้วอ้วน (1)
- ไชยเชษฐ์ (1)
- ซาชิกิวาราชิ (1)
- เซิร์น ไขปริศนากำเนิดจักรวาล (1)
- โซลิตอน (1)
- ไซเบอร์สเปซ (1)
- ดวงจันทร์ ( Moon ) (1)
- ดวงจีน (1)
- ดาวเคราะห์น้อยชนโลกมหันตภัยจากห้วงอวกาศ (1)
- ดาวซิ่ง (1)
- ดาว (โหราศาสตร์) (1)
- ดิถี (1)
- ดื่มนมร้อนก่อนนอนจะช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้ จริงหรือ (1)
- ต้นไม้แปลก ต้นไม้ที่โดดเดี่ยว ที่สุดในโลก (1)
- ต้นไม้แปลก ต้นไม้สีรุ้ง (1)
- ต้นไม้แปลก ออกลูกที่ลำต้น (1)
- ต้นไม้แห่งชีวิต (1)
- ตรรกศาสตร์ (1)
- ตำนานคนตัดไผ่ (1)
- ตำแหน่งของโลกในจักรวาล (1)
- (ตุ๊กแกหางใบไม้ แห่งมากากัสการ์) (1)
- ตู้เย็น (Refrigerator) (1)
- เต่ามะเฟือง (1)
- ถุงน่องแช่น้ำเกลือช่วยให้ถุงน่องไม่ขาดง่าย จริงหรือ (1)
- ทฤษฎีความโกลาหล (Chaos Theory) กับความไร้ระเบียบของสถานการณ์บ้านเมือง (1)
- ทฤษฏีสัมพัทธภาพทั่วไป (2)
- ทฤษฏีสัมพัทธภาพทั่วไป 2 (1)
- ทฤษฏีสัมพัทธภาพทั่วไป ตอนที่ 19..สนามโน้มถ่วง (1)
- ทฤษฏีสัมพัทธภาพทั่วไป ตอนที่ 24..คอนตินิวอัมระบบยุคลิด และนอกระบบยุคลิด (1)
- ทฤษฏีสัมพัทธภาพทั่วไป ตอนที่ 26..คอนตินิวอัมอวกาศ (1)
- ทฤษฏีสัมพัทธภาพทั่วไป ตอนที่ 27..คอนตินิวอัมอวกาศ (1)
- ทฤษฏีสัมพัทธภาพพิเศษ ตอนที่ 4 ..ระบบของพิกัดแบบกาลิเลอี (GALILEIAN) (1)
- ทฤษฏีสัมพัทธภาพพิเศษ ตอนที่ 8 ..ว่าด้วยความคิดเกี่ยวกับเวลาในฟิสิกส์ (1)
- ทองคำแท่ง หนักที่สุด ใหญ่ที่สุดในโลก (1)
- เทปตีนตุ๊กแก ตัวแควก เวลโคร์เทป (1)
- เทพเตาไฟ (1)
- ธนบัตรหนึ่งแสนดอลลาร์ (1)
- ธรรมะ จาก พระอาจารย์ ว. วชิรเมธี ชุด โปรดอย่า...ลืม (1)
- ธารน้ำแข็งหนาปากปล่อง เหตุภูเขาไฟไอซ์แลนด์ระเบิดรุนแรง (1)
- นกที่ใหญ่ที่สุดในโลก (1)
- นับเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษที่ NASA สำรวจดวงจันทร์ (1)
- นัยน์ตาปีศาจ (1)
- นางกวัก (1)
- นาซาได้เผยแพร่ภาพเนบิวลาในกลุ่มดาวกระดูกงูเรือ (1)
- น้ำ...พลังงานมหัศจรรย์ (1)
- นำเหรียญสลึงใส่แจกันช่วยให้ดอกไม้ไม่เหี่ยวเฉาได้ จริงหรือ (1)
- เนะโกะมะตะ (1)
- แนวคิด การออกแบบ และเป้าหมาย (1)
- ในความเชื่อของคนไทย เลือดและอวัยวะหลายส่วนของค่าง (1)
- บั้งไฟพญานาค (1)
- บาคุ (1)
- เบียร์ช่วยคลายเกลียวขึ้นสนิมได้ (1)
- ใบฝรั่งช่วยดูดกลิ่นได้ จริงหรือ (1)
- ปลาบู่ทอง (1)
- ปลาหมึกยักษ์ ใหญ่ที่สุดในโลก (1)
- ปลาหมึกยักษ์ ฮัมโบล์ (1)
- ปากท่อ ราชบุรี (1)
- ปีศาจจิ้งจอก (1)
- ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง (1)
- โป๊ยเซียน (1)
- ผีนับจาน (1)
- ผีไม่มีหน้า (1)
- พระเจ้าอี่ (1)
- พระพิรุณ (1)
- พริกแห้งใช้ไล่แมลงวันได้ จริงหรือ (1)
- พลังงานทางเลือกทางเลือกที่เราเลือกได้ (1)
- พลุ ใหญ่ที่สุดในโลก ( Biggest Fireworks ) (1)
- พัฒนาการ ของ โลโก้รถ มาสด้า (1)
- พายุทอร์นาโด ครั้งเลวร้ายที่สุดในโลก (1)
- เฟาสต์ (1)
- ภาพรวมของจักรวาล (1)
- ภาพวาด แพงที่สุดในโลก (1)
- ภูเขาน้ำแข็งก้อน ใหญ่ที่สุดในโลก (1)
- ภูเขาไฟระเบิด ที่ ไอซ์แลนด์ กับ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ สวยสยอง (1)
- มะเนะกิเนะโกะ (1)
- มันฝรั่งกำจัดกลิ่นปลาร้าติดมือได้ จริงหรือ (1)
- มันฝรั่งช่วยลดความดันโลหิตให้ต่ำลงได้ จริงหรือ (1)
- ม้า ตัวเล็ก ที่สุดในโลก ( Smallest horse ) (1)
- ม้า ตัวใหญ่ที่สุดในโลก ( Biggest horse ) (1)
- ม้า สายพันธุ์ที่สวยที่สุดในโลก ( World's most beautiful horse) (1)
- เมื่อเป็นไข้ไม่ควรกินฝรั่ง จริงหรือ (1)
- แม่ซื้อ (1)
- แม่นาคพระโขนง (1)
- ไมโครเวฟ (1)
- ยางลบทำมาจากอะไร (1)
- ยาหม่องสามารถใช้ขจัดหมากฝรั่งเปื้อนผ้าได้ จริงหรือ (1)
- รอยสักสวยที่สุดในโลก แบบเครื่องลายคราม (1)
- ระบบประสาทการได้ยิน (1)
- ระเบิดทำลายรถถัง ควบคุมระยะไกล (1)
- รังสีไมโครเวฟพื้นหลังของจักรวาล (1)
- รางวัลโนเบลวิทยาศาสตร์ (1)
- รุทรักษะ (1)
- รู้ไว้ใช่ว่า เส้นผมใช้ทำ ฟองน้ำ ซับน้ำมันได้อย่างดี (1)
- ( เรื่องเล่าจากคนใช้งานพลาสมาที่ความดันบรรยากาศ ) (1)
- โรคถึงจุดสุดยอดพร่ำเพรื่อ (1)
- โรคแพ้น้ำ (1)
- โรคอัลไซเมอร์ (1)
- ละครสัตว์ เล็กที่สุดในโลก (1)
- ลัคนา (1)
- ลัทธิความเป็นอคติต่อชาวเซมิติค (1)
- ลิงสามตัว (1)
- โลกของการส่องสว่างด้วยแสงแห่งหลอดไฟ (1)
- วลาด เทเปซ (1)
- วังนาคินทร์คำชะโนด (1)
- วัฏจักรน้ำ (1)
- วัฏจักรสุริยะ เมื่อดวงอาทิตย์อารมณ์แปรปรวน (1)
- วันนี้จะพาไป ดูหน้าตา ของต้นเหตุ โรคแพ้เกสรดอกไม้ (1)
- วิตามินอี (Tocopherol) (1)
- วิทยาศาสตร์-นักวิจัยความรู้ที่ไม่มีขีดจำกัด (1)
- วิธีผูกเชือกรองเท้า (1)
- วิวัฒนาการ ของโลโก้ (1)
- ศาลพระภูมิ (1)
- สกินวอร์คเกอร์ (1)
- สตรีหิมะ (1)
- สถิติจอมเขมือบ แห่ง กินเนสบุ๊ค (1)
- สถิติบ้าๆ กินเนสบุ๊ค หมุนตัวโดยสว่าน นานที่สุดในโลก (1)
- สถิติพิศดาร ของ สาวตัวอ่อน ในกินเนสบุ๊ค (1)
- สนุกคิดไปกับกิจกรรมการวาดการ์ตูน Sci-Fi (1)
- ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ (1)
- สวนสวยบนหลังคา (1)
- สัมผัสที่หก (1)
- สาวคอยาว (1)
- สาวปากฉีก (1)
- สิ่งประดิษฐ์ใหม่ เครื่องผลิต กระดาษชำระ จาก กระดาษเหลือใช้ (1)
- สิ่งประดิษฐ์ใหม่ เครื่องพิมพ์ ไร้หมึกที่สามารถพิมพ์ แล้วลบได้ (1)
- สึจิโนะโกะ (1)
- สุวรรณขีด (1)
- เสวียน (1)
- เสื้อใน มหัศจรรย์ ตัวแรกของโลก (1)
- ใส่หลอดในขวดซอสมะเขือเทศจะทำให้เทออกง่าย จริงหรือ (1)
- หนอนแก้ว หัวงู (1)
- หมาตัวใหญ่ที่สุดในโลก (1)
- หลอดไฟฟ้า (Light Bulb) (1)
- ห้องซ้อมดนตรี เปิดใหม่ (1)
- หุ่น หนังมนุษย์ (1)
- เหล็กไหล (1)
- โหราศาสตร์ (1)
- อธิบายเรื่องความรักโดยหลักวิทยาศาสตร์ (1)
- อวสานนักประดิษฐ์ผู้สิ้นชีพเพราะผลงานตนเอง (1)
- อสูรปกครองศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 (1)
- อะไรคือ "ระบบประชามติ"? (1)
- อาการกลัวคนแปลกหน้า (1)
- อูเธอร์ เพนดรากอน (1)
- เอทิล-เมทิลแอลกอฮอล์ เรียกชื่อผิด พิษถึงตาย (1)
- เอาผ้าไหมแช่ช่องแข็งจะทำให้รีดง่าย จริงหรือ (1)
- โอริงามิ...มหัศจรรย์แห่งการพับกระดาษ (1)
- ฮก ลก ซิ่ว (1)
- Augmented reality (1)
- Hairless Guinea pig หรือ หนูไม่มีขน (1)
- What Einstein never knew (1)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น