นาฬิกา

ปฏิทิน

ลูกศร

cursor

ผู้ติดตาม

friend

Hairless Guinea pig หรือ หนูไม่มีขน








จัดเป็นสัตว์ในตระกูล สัตว์ฟันแทะ(Rodent) มีถิ่นกำเนิดในประเทศอเมริกา ซานดิเอโก แคริฟอร์เนีย เมื่อปี พ.ศ. 2537 โดยเกิดจากการผสมพันธ์ ระหว่างหนูแกสบี้พันธ์ Crest สี G




เพื่อให้เป็นการง่ายต่อการเรียก ขอเรียกเจ้านี้ว่า"หนูฮิปโป"แล้วกันนะครับ เนื่องจากเมื่อแรกเห็นเจ้าหนูชนิด มองดูคล้ายกับฮิปโปย่อส่วนมากกว่าหนูหรือหมูย่อส่วนมา หรือหนักกว่านั้น บางคนบอกว่าเป็นหนูขี้เรื้อนก็มี ส่วนในไทยได้มีการนำเข้าเจ้าหนูฮิปโป มาประมาณ ปีกว่า ๆ แล้วแต่ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรในยุคแรก ๆ แต่ในปัจจุบันได้มีการนำเข้าหนูพันธ์นี้ มาจากประเทศ ญี่ปุ่นและทางแถบยุโรปมากขึ้น ทำให้เป็นที่สนใจต่อผู้คนที่พบเห็นและนักสะสมสัตว์แปลก ๆ อีกด้วย

บอกประวัติคร่าว ๆ ของเจ้าหนูฮิปโปกันไปบ้างแล้ว เพื่อไม่ให้เสียเวลา มาดูวิธีการเลี้ยง กรผสมพันธ์ การเลือก อุปกรณ์ที่ใช้ในการเลี้ยงกันเลยดีกว่าครับ



การเลี้ยงและวิธีดูแล

เจ้าหนูฮิปโป เป็นหนูที่เลี้ยงง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่จำเป็นต้องหวีขน หมดปัญหาเรื่องขนพันกัน เพียงแค่เช็ดตัวด้วยนำอุ่น ๆ สองวันครั้ง แค่นี้เจ้าหนูฮิปโป ก็สะอาดแล้วครับ กรงที่เลี้ยงควรมีมุ้งป้องกันไม่ให้แมลง เช่นยุง แมลงวัน เข้าไปทำความรบกวน เพราะเนื่องจากเป็นหนูที่ไม่มีขน ทำให้ไม่มีขนป้องกัน อันตรายได้ ถ้าเกิดยุงกัดขึ้นมาอาจทำให้เป็นตุ่ม เป็นแผลได้

อุปกรณ์ในการเลี้ยง

เริ่มจากกรง อาจใช้เป็นกรงเลี้ยงหนูทั่วไปหรือกรงนกก็ได้แต่ต้องหาตาข่ายรองพื้นด้วย เพื่อป้องกัน ขาเข้าไปติดในร่องกรง และต้องมีขนาดใหญ่ ไม่อึดอัด กรงควรมีขนาดตั้งแต่ 2 ฟุต ขึ้นไป ภายในกรงอาจมีการนำของเล่นมาให้เล่นด้วยก้ได้ เช่น บ้าน ลูกบอล ท่อ โพรง ฯลฯ ส่วนอุปกรณ์ต่อมาก็คือ ขวดน้ำ กับจานอาหาร หรือ รางใส่หญ้า ส่วนวัสดุปูพื้น อาจจะใช้ ขี้เลื่อยสำหรับเลี้ยงหนู ฟาง ซังข้าวโพด หรืออาจเป็นพื้นกรงโล่ง ๆ อาจจะรอด้วยแผ่นตะแกรงพลาสติกเล็กน้อย แค่นี้ก็สามารถเลี้ยงเจ้าหนูฮิปโปได้แล้วครับ



อาหาร

อาหารที่ใช้ในการเลี้ยง เจ้าหนูฮิปโปนั้น มีหลายอย่าง และส่วนมากเป็นวัตถุดิบที่สามารถหาได้ง่าย ในประเทศไทย อาหารที่มันชอบได้แก่ หญ้าขน หญ้าแห้ง หญ้าอัลฟาฟ่า ผักสดบางชนิด ไวตามิวล์ และก็อาหารเม็ดสำเร็จรูป ของหนูแกสบี้ ฯลฯ และอาจจะเสริม วิตามินผสมในน้ำหรือ ป้อนให้กินทุกวันก้ได้



การดูแลสุขภาพ หนูฮิปโป ไม่ทนต่ออากาศร้อนซักเท่าไร จึงจำเป็นต้องมีบ้านให้หลบ และสถานที่อยู่ควรมีอากาศถ่ายเทสะดวก อบอุ่น ไม่ควรเลี้ยงไว้ในห้องแอร์

การผสมพันธ์



การผสมพันธ์

หนูฮิปโปเป็นสัตว์ที่สามารถเพาะขยายพันธ์ได้ง่าย มันจะเป็นสัด ทุก ๆ 14-16 วัน เมื่อหนูแกสบี้ตัวผู้ต้องการผสม มันจะก้มหัวลงต่ำ และเริ่มเดินไปรอบๆตัวเมียอย่างช้าๆ และทำเสียง ครางเล็ก ๆ และส่ายก้นไปมา เพื่อดึงดูดความสนใจจากหนูแกสบี้ตัวเมีย และเมื่อตัวเมียยอมและพร้อมที่จะให้ผสมพันธ์ หนูตัวเมียจะยืนนิ่ง เพื่อรอให้ตัวผู้ขึ้นผสมจากทางด้านหลัง ซึ่งหนูตัวผู้จะอาจจะทำซ้ำอย่างงี้หลาย ๆครั้ง ใน 1 ชั่วโมง

และเมื่อหนูตั้งท้องแล้ว เมื่อหนูแกสบี้ตัวเมีย ท้องได้ประมาณ 3 สัปดาห์ ก็จะเริ่มสังเกตุ ซึ่งจะรู้สึกได้ว่าท้องด้านข้างจะป่องออก อีกวิธีที่พอจะดูว่าตั้งท้องอยู่รึเปล่า ก็คือ วางหนูแกสบี้ โดยให้ขาหน้าทั้งสองของเค้าวางอยู่บนโต๊ะ และยกก้นประคองไว้ด้วยมือทั้ง 2 ของเรา โดยใช้นิ้วมือแตะกดลงเพียงเบาๆ ไปทางด้านล่าง จนกระทั่งสามารถรู้สึกได้ถึงสิ่งที่อยู่ในนั้น แต่อย่ากดแรง อาจจะทำให้แม่หนูได้รับความกระทบกระเทือนได้



การเลือกซื้อ

ควรเลือกหนูที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีบาดแผล แต่ในกรณีของสายพันธ์นี้ อาจมีแผลตามตัวได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากไม่มีขนปกคลุมทำให้ง่ายต่อการเป็นแผล ดวงตาต้องมีประกาย การเดินเป็นปกติ ไม่ขี้ตื่นจนเกินไป กินอาหารดี ถ่ายออกมาเป็นเม็ดแข็ง ไม่เหลวและไม่มีเศษอุจจาระติดที่ก้นด้วย

โรคและการรักษา

เจ้าหนูฮิปโปจัดว่าเป็นหนูที่มีควมแข็งแรงพอสมควร ดูแลทำความสะอาดง่าย จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคซักเท่าไร

แต่ปัญหาเรื่องโรคที่เป็นบ่อย ก็คือ

1. โรคผิวหนัง เนื่องจากมีผิวหนังที่อ่อนนุ่ม และยังไม่มีขนคอยปกคลุมผิวทำให้เกิดเป็นแผลได้ง่าย วิธีรักษาเมื่อเกิดแผลคือ ใชเบตาดีนแต้มที่แผลเล็ก น้อย คอยดูอย่าให้เลียแผล ทำอย่างงี้ทุกวัน ภายในสองถึงสามวันแผลก็จะหายเป็นปกติ

2. โรคท้องเสีย เกิดจากอาหารบูด เน่า ผักไม่สด อาหารขึ้นรา และที่อยู่อาศับสกปรกเกินไป และอีกประเด็นสำคัญคือ กินอาหารที่มีน้ำมากเกิดนเช่นแตงโม ทำให้ อุจจาระเหลวได้ วิธีแก้คือ เมื่อกินเสร็จให้เก็บผัก หรืออาหารออกจากกรงให้หมด อย่าปล่อยให้เน่า น้ำต้องสะอาดอยู่เสมอ ภายในกรงต้องสะอาด ควรทำความสะอาดกรงทุกวัน เพราะหนูชนิดนี้มีระบบขับถ่ายที่ดีมาก มันจะอุจจาระบ่อยครั้งมากในแต่ล่ะวัน



ส่วนโรคอื่น ๆ ถ้าเป็นหนัก แนะนำปรึกษาแพทย์ดีกว่าครับ



อ่านมาถึงนี้เชื่อว่าไม่มากก็น้อยที่แอบหลงรักเจ้าหนูฮิปโปเข้าแล้ว ไงถ้าบทความนี้ไม่ละเอียดพอลองหาในGoogle ดูได้ครับ ที่เมืองนอกเค้าเลี้ยงกันเยอะพอสมควรครับ อาจจะขาดตกบกพร่องไปหน่อย แต่ก็พอเป็นแนวทางให้กับคนที่คิดจะเลี้ยงเจ้าหนูชนิดนี้ได้ไม่มากก็น้อยนะ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เรื่องน่ารู้ต่างๆ